วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

การสื่อสารทางไกล

การสื่อสารทางไกล Video Conference System





การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันนี้การติดต่อสื่อสารถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งในองค์ประกอบที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ทำให้ระบบการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและมีความรวดเร็วเป็นตัวแปรสำคัญอย่างหนึ่ง ในการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและในการติดต่อทางธุรกิจสิ่งหนึ่งที่จะขาดไปเสียมิได้คือ การประชุม แต่การประชุมก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราต้องเสียเวลาและพลาดโอกาสต่างๆ ที่สำคัญ เนื่องจากต้องมีการเดินทางจากที่ต่างๆ เพื่อมาประชุมกัน ณ สถานที่ที่กำหนดที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งในการเดินทางนั้นจะต้องเสียเวลา ค่าใช้จ่ายและยังเกิดความเสี่ยงในการเดินทางขึ้นอีกด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและเพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้น จึงมีความจำเป็นในการนำอุปกรณ์สื่อสารเข้ามาใช้ประโยชน์Video Conference System เป็น การติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่ต่างสถานที่กันได้ทั้งภาพ เสียง และข้อมูลในเวลาเดียวกัน




ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ Video Conference Systemในการนำระบบ Video Conference เข้ามาใช้ในธุรกิจนั้นช่วยให้เกิดประโยชน์ต่าง ๆ ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยทางตรง คือ สามารถวัดผลที่ได้ออกมาในรูปของตัวเงิน คือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ส่วนในทางอ้อมนั้นวัดเป็นรูปตัวเงินได้ยาก เช่น ช่วยให้ประหยัดเวลา ช่วยอำนวยความสะดวก ช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ดังสามารถสรุปประโยชน์ที่ได้เป็นดังนี้1. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากที่ต่าง ๆ เพื่อมาประชุม, อบรม2. สามารถทำการประชุมเพื่อวิเคราะห์ แก้ไขปัญหา และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว3. ทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในองค์กรมากขึ้น4. ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทาง

สุดยอดเทคโนโลยีสวมใส่ได้

เทคโนโลยีสวมใส่ได้ (Wearable Technology) นับเป็นความพยายามของมนุษย์ที่จะผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวัน ดูแล้วทันสมัย สะดวกสบายต่อการใช้งาน
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของสุดยอดเทคโนโลยีสวมใส่ได้
1.แจคเก็ตจาก Audex Motorola

มองดูแล้วอาจต่างจากแจคเก็ตขนาดใหญ่ เนื่องจากมีขนาดใหญ่ พร้อมคุณสมบัติเด่นได้แก่

• มีระบบบลูทูธสามารถใช้งานกับโทรศัพท์บลูทูธทั่วไป

• มีระบบปรับอุณหภูมิเพื่อให้รู้สึกสบาย

• มีหูฟังพร้อมสายสัญญาณสำหรับต่อกับเครื่องเล่น

2. เป้วิดีโอ

เป้ที่มาพร้อมกล้องเพื่อให้คุณถ่ายภาพนิ่งหรือภาพวิดีโอได้ด้วยความละเอียดสูง โดยสามารถควบคุมกล้องได้จากแผงควบคุมภายในสายพาดไหล่

3. ชุดบำบัดด้วยแสง

ชุดบำบัดด้วยแสงของ Engels ช่วยคุณรักษาโรคบางชนิด โดยเฉพาะ Crigler-Najjar syndrome ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคนี้ที่เซลเม็ดเลือดแดงที่มีชื่อว่าบิลิรูบินไม่สามารถแตกตัวได้ และมีผลให้สูญเสียภูมิคุ้มกันโรคในที่สุด

4. คีบอร์ดที่มาพร้อมดีไซน์



KITTY TECH ได้แนะนำนวัตกรรมการควบคุมคีบอร์ดที่เรียกว่า “Keyboard Independent Touch Typing Technology” โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องวางมือบนคีบอร์ดอีกต่อไป เพียงแค่เคลื่อนย้ายนิ้วมือเท่านั้น

5. โทรศัพท์นิ้วมือ


นับเป็นงานวิจัยที่ก้าวล้ำของนักวิจัยที่ชื่อ Sunman Kwon จากมหาวิทยาลัย ที่เปลื่ยนมือให้เป็นโทรศัพท์มือถือ








เทคโนโลยีสุดขั้ว สู้วิกฤตมนุษย์ก่อโลกร้อน


ปัจจุบันนี้สิ่งที่ผู้คนทั่วโลกกำลังเผชิญก็คือ ปัญหาภาวะโลกร้อนนั่นเอง ดังนั้นเราจึงนำสาระดีดีเกี่ยวกับเทคโนโลยี ในการแก้ปัญหาโลกร้อนมาฝาก . . .หลังจากใช้เวลาตรวจและวิเคราะห์ข้อมูลความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกอยู่นาน 6 ปีเต็ม ในที่สุด "ไอพีซีซี" ก็เปิดเผยรายงานใหม่ล่าสุดเกี่ยวข้องกับวิกฤต "โลกร้อน" ที่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นในอนาคต รายงานที่ไอพีซีซีเผยแพร่เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นเพียงส่วนแรก ซึ่งพยากรณ์สภาพความเปลี่ยนแปลงของอากาศ จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญ 1,200 คนจาก 40 ประเทศทั่วโลก นอกจากนั้น ยังยืนยันเป็นครั้งแรกว่า ที่มาของวิกฤตการณ์โลกร้อนร้อยละ 90 มาจาก "น้ำมือของมนุษย์" ผ่านการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล ควันพิษจากอุตสาหกรรม การปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปสะสมในชั้นบรรยากาศ และการบุกรุกทำลายผืนป่า เป็นหลัก ชายฝั่งจมทะเล ไอพีซีซีประเมินว่า ภายในปีค.ศ.2100 (พ.ศ.2643) หรือเกือบ 100 ปีนับจากวันนี้ อุณหภูมิของโลกมีโอกาสเพิ่มขึ้นระหว่าง 1.1-6.4 องศาเซลเซียส แต่ตัวเลขที่มีความเป็นไปได้สูงสุด คือ 1.8-4.0 องศาเซลเซียส ด้วยอุณหภูมิที่ขยับเดินหน้าขึ้นไปเช่นนั้นจะทำให้ระดับน้ำทะเลของโลกภายในปี 2643 เพิ่มสูงขึ้นระหว่าง 18-59 เซนติเมตร ขณะที่งานวิจัยฉบับก่อนหน้า เคยพยากรณ์ระดับน้ำทะเลว่าอาจเพิ่มขึ้น 140 เซนติเมตร ทำให้พื้นที่ชายฝั่งในวันนี้อาจสูญหายไปได้ ถ้าประชาคมโลกยังไม่มีมาตรการลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศจนอุณหภูมิน้ำทะเลร้อนตามโลกไปด้วย ส่งผลให้ "น้ำแข็ง" และ "ธารน้ำแข็ง" ในแถบกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกละลายอย่างรวดเร็ว ภัยธรรมชาติแรงขึ้น รายงานไอพีซีซี ยังระบุด้วยว่า ก่อนถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์ปล่อยไปสู่ชั้นบรรยากาศนั้นมีไม่มากนัก ระดับการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่อันตรายที่สุด ในชั้นบรรยากาศมีประมาณ 280 พีพีเอ็ม… แต่ในปี 2548 พุ่งสูงไปจนถึง 379 พีพีเอ็ม! ภายในศตวรรษ หรือรอบ 100 ปีจากนี้ คาดว่าผลกระทบจากภาวะโลกร้อนจะทำให้โลกต้องเผชิญกับ "พายุ" ถี่และบ่อยขึ้นกว่าที่ผ่านมา 66 เปอร์เซ็นต์ ภูมิภาคที่ตั้งอยู่ตรงตอนกลาง-ตอนเหนือเส้นศูนย์สูตรจะเจอกับสภาพหิมะและฝนตกหนักมากกว่าเดิม 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนภูมิภาคในเขตร้อนจะมีฝนและหิมะตกน้อยลง เทคโนโลยี"สุดขั้ว"สู้โลกร้อน ที่ผ่านมา แนวทางบรรเทาภัยโลกร้อนที่นักวิทยาศาตร์เสนอในระดับทั่วไป ได้แก่ การคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลและน้ำมัน อาทิ เทคโนโลยีพลังงานลม พลังแสงอาทิตย์ พลังคลื่น และพลังงานนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม มีนักวิทยาศาสตร์บางคนคิดไปไกลกว่านั้น โดยเสนอแนวทาง "สุดขั้ว" เพื่อสกัดกั้นแสงอาทิตย์จากนอกโลกโดยตรง ซึ่งแต่ละข้อเสนอล้วนมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนี้
ปั๊มก๊าซซัลเฟอร์สู่ชั้นบรรยากาศ พอล ครัตเชน นักเคมีวิทยาเจ้าของรางวัลโนเบล เสนอว่า ถ้าเราปล่อยซัลเฟอร์หลายล้านตันออกไปสะสมปกคลุมอยู่ในบรรยากาศโลกชั้นบน จะส่งให้ซัลเฟอร์จำนวนมหาศาลเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนกับกระจกที่ช่วยสะท้อนปริมาณแสงอาทิตย์ที่ตกมาถึงพื้นโลกกลับออกไปในอวกาศได้ราว 1 เปอร์เซ็นต์ ช่วยให้บรรเทาภาวะโลกร้อนได้ระดับหนึ่ง ข้อเสียของแนวคิดนี้ก็คือ จะทำให้ชาวโลกเผชิญกับปัญหาฝนกรดและโรคระบบทางเดินหายใจมากขึ้น ส่ง"ที่บังแดด"คลุมโลก โรเจอร์ แองเจิ้ล นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอริโซนา สหรัฐอเมริกา มองไปไกลยิ่งกว่าครัตเชน โดยเขาเชื่อว่า เราสามารถประดิษฐ์ "เลนส์สะท้อนแสง" ขนาดเล็กจำนวนหลายล้านล้านชิ้นและส่งมันออกไปลอยคว้างอยู่ในวงโคจรโลกเพื่อทำหน้าที่เป็น "ที่บังแดด" คอยสะท้อนแสงอาทิตย์ไม่ให้ตกมาถึงพื้นโลกได้อย่างน้อยๆ 2 เปอร์เซ็นต์ แนวความคิดนี้ดูท่าจะสำเร็จยาก เนื่องจากเฉพาะค่าลงทุนสร้างเลนส์สะท้อนแสงหลายล้านล้านชิ้นและส่งออกไปนอกโลกก็คิดเป็นเงินมโหฬารสูงกว่าล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ห่อหุ้มโลกด้วย"ฝุ่น" เคอร์ติส สตรัก นักดาราศาสตร์มหาวิทยาลัยไอโอวา สหรัฐอเมริกา ตั้งทฤษฎี ว่า มนุษย์สามารถเก็บรวบรวม "ฝุ่นในอวกาศ" ที่เกิดจากดาวหางและฝุ่นบนดวงจันทร์นำมาใช้เป็น "เครื่องกำบัง" บดบังไม่ให้แสงอาทิตย์สาดส่องลงไปยังโลกมนุษย์ได้เดือนละหลายชั่วโมง สตรักเสนอให้นักวิทยาศาสตร์หาทางรวบรวมและกำหนดให้ฝุ่นอวกาศดังกล่าวเกาะกันเป็นก้อนและโคจรรอบๆ โลกคล้ายกับพระจันทร์ โดยเชื่อว่าแนวทางนี้จะลดปริมาณแสงแดดที่ส่องตรงมายังโลกได้เดือนละมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ แต้ข้อเสียของทฤษฎีนี้คือฝุ่นอวกาศอาจเสียวงโคจรและพุ่งไปสร้างความเสียหายแก่ดาวเทียม ติดวัสดุสะท้อนแสง นักฟิสิกส์หลายสำนักเสนอให้มีการติดตั้ง "วัสดุสะท้อนแสงอาทิตย์" เอาไว้ตามพื้นผิวประเภทต่างๆ บนโลกเรา เช่น ถนน ทะเลทราย มหาสมุทร ตึกรามบ้านช่อง เพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์กลับออกไปนอกโลกให้มากขึ้น แนวคิดนี้ดูเหมือนมีความเป็นไปได้มากที่สุดในบรรดา 4 ข้อเสนอ แต่ยังต้องศึกษาผลกระทบระยะยาวว่า ถ้าใช้วิธีการนี้แล้วทำให้ปริมาณความร้อนบนผิวโลก รวมถึงในมหาสมุทรลดต่ำลง จะก่อให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนตามมาหรือไม่

อินเตอร์เน็ต กับ การศึกษาตลอดชีวิตเพื่อปวงชน

การกำเนิดของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณห้าสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่ยุคสารสนเทศ ในช่วงแรกมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องคำนวณ แต่ต่อมาได้มีความพยายามพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการจัดการข้อมูล เมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น สภาพการใช้งานจึงใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่และสังคมจึงมีมาก มีการเรียนรู้และใช้สารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศโดยรวมกล่าวได้ดังนี้ การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน เช่น ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ใช้ควมคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร ทำให้มีการกระจายโอการการเรียนรู้ มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล นอกจากนี้ในปัจจุบันมีความพยายามที่ใช้ระบบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คำนวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทำรายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนมากขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่างจำเป็นต้องใช้สารสนเทศ เช่น การดูแลรักษาป่า จำเป็นต้องใช้ข้อมูล มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม การติดตามข้อมูลสภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศ การจำลองรูปแบบสภาวะสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงแก้ไข การเก็บรวมรวมข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ การตรวจวัดมลภาวะ ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วย ที่เรียกว่าโทรมาตร เป็นต้น เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ กิจการทางด้านการทหารมีการใช้เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใช้ระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงาน
การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจำเป็นต้องหาวิธีการในการผลิตให้ได้มาก ราคาถูกลงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมาก มีการใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อการบริหารและการจัดการ การดำเนินการและยังรวมไปถึงการให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น
เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป